วันหนึ่งมีคำถามมาถึงแอดว่า
“ถ้าเราเห็นผู้อื่นทำสิ่งที่ดีงามหรือทำบุญ โดยเรายินดีในบุญของเขาในใจ หรืออนุโมทนาบุญในใจ โดยไม่ได้เอ่ยหรือเขียนออกไปให้ใครรับรู้ แบบนี้จะถือเป็นการอนุโมทนาบุญด้วยหรือเปล่า”
คำถามนี้น่าสนใจมากนะครับ หลายต่อหลายครั้งที่เคยเห็นการพูดเอ่ยว่า “อนุโมทนา”, “สาธุ” หรือบางครั้งได้เห็นการพิมพ์ในไลน์ ในคอมเม้นต์
วันนี้แอดเลยว่าจะเอาคำตอบที่ได้ตอบผู้ถามคำถามนี้มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ
| อนุโมทนาบุญคืออะไร ?
การอนุโมทนาบุญเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งในบุญกิริยา 10 ประการ ซึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นบุญกิริยา 3 ประการมี ทาน, ศีล และภาวนา แล้วอรรถกถาจารย์ก็มาอธิบายขยายเพิ่มเติมเป็น 10 ประการโดยเป็น 10 ประการที่อยู่ในหมวดหมู่ของทาน, ศีล, ภาวนาอีกทีหนึ่ง โดยจะเรียกการอนุโมทนาบุญนี้ว่า ปัตตานุโมทนามัย
ปัตตานุโมทนามัย มีความหมายว่า ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น
ในการยินดีบุญหรือความดีของผู้อื่นนั้น เกิดจากการที่เราได้ทราบว่าเขาได้กระทำความดีนั้นๆ จากการบอกกล่าว การเห็น หรือจากวิธีใดๆ ก็ตาม แม้ว่าจะเป็นคนที่รู้จักหรือไม่รู้จักก็ดี ย่อมก่อนให้เกิดบุญในใจจากการยินดีนั้น
| ตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อนไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัด ตั้งใจจะให้เราร่วมอนุโมทนา จึงมาบอกเรา แล้วเราก็เกิดความยินดีขึ้นจากการได้ฟังนั้น บุญย่อมเกิดในใจด้วยความยินดีนั้นแล้ว ไม่ว่าจะกล่าวหรือไม่ได้กล่าวอนุโมทนาออกมา เป็นปัตตานุโมทนามัย
- พ่อแม่ไปบริจาคสิ่งของให้คนที่ขาดแคลน เดือดร้อน ซึ่งไม่ได้มาบอกกล่าวให้เราฟัง แต่เราทราบอยู่ว่าพวกเขาได้ไปทำมา ใจเราเกิดความยินดี เบิกบานใจที่ได้ทราบว่าเขาทำความดีเหล่านั้น บุญก็เกิดขึ้นในใจเราจากความดีที่เขาได้ทำด้วย เป็นการได้ทำปัตตานุโมทนามัย
- เรากำลังเดินข้ามถนน ได้เห็นคนอื่นกำลังจูงคนแก่ข้ามถนนจากฝั่งตรงข้าม ใจเกิดความยินดีในความดีที่เขาจูงคนแก่ข้ามถนนนั้น ใจเราย่อมเป็นบุญทันทีเมื่อความยินดีนั้นเกิดขึ้น แม้ว่าเราจะไม่รู้จักคนผู้ทำความดีนั้นเลยก็ตาม ก็เป็นปัตตานุโมทนามัย
- พี่น้องไปทำบุญ ถวายอาหารเพลแก่สงฆ์ที่วัด ได้ถ่ายรูปส่งให้ในไลน์กลุ่มว่าได้ไปถวายเพล เราเองก็พิมพ์บอกว่าอนุโมทนา แต่ความยินดีไม่ได้เกิดขึ้นในใจเรา บุญจากความยินดีก็ย่อมไม่ได้เกิดขึ้น จึงไม่เป็นปัตตานุโมทนามัย ซึ่งในกรณีนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าใจจะเป็นอกุศล ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆอีกครับ
| ยินดีในความดี ก็เป็นปัตตานุโมทนามัยแล้ว
จากตัวอย่างที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่าการที่เรามีใจยินดีในบุญหรือความดีใดๆ ที่ได้รับรู้ย่อมเป็นบุญในใจเราได้ แม้ว่าจะไม่ได้กล่าวอนุโมทนาหรือเขียนอนุโมทนาใดๆ เลย
ในทางกลับกัน แม้ว่าจะเอ่ยคำ หรือเขียนคำอนุโมทนาไป หากใจไม่มีความยินดีแล้ว ปัตตานุโมทนามัยย่อมไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ดีครับ
อีกอย่างหนึ่ง หากใจมีความยินดีในความดี แล้วความยินดีนั้นมีความแรงกล้าอยู่ความอยากที่จะเอ่ยหรือเขียนว่าอนุโมทนาก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องเป็นความอยากจะเอ่ยหรือเขียนนั้นจริงๆ ซึ่งบางทีโดยทั่วไปแล้วการกล่าวหรือเขียนอนุโมทนาอาจจะเกิดจากการที่เข้าใจว่าเมื่อรับทราบถึงความดีที่คนอื่นได้ไปทำแล้วเลยต้องกล่าวหรือเขียนอนุโมทนาไป หรือเป็นไปตามมารยาทเท่านั้นเอง
สรุปว่า ความเป็นบุญของปัตตานุโมทนามัยนั้น ก็คือตัวความยินดีในความดีเมื่อทราบถึงความดีที่ผู้อื่นได้กระทำนั่นเอง


Leave a comment